เพชรดีที่น่าลงทุน.....
ถ้าเป็นคนที่ชอบซื้อเพชร ต้องเคยได้ยินว่า จะซื้อเพชรต้องดูที่ 4Cs แต่ถ้าคาดหวังการเพิ่มมูลค่าในแง่การลงทุน ต้องพิจารณาให้ครบทั้ง 6Cs
สี ( Clolor )
ตามมาตรฐานของสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งอเมริกา (GIA) จะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ เริ่มจาก D ถึง Z โดยที่สีระดับ D ถือเป็นเพชรสีขาว หรือเพชรไร้สีที่ไม่มีสีอื่นมาเจือปนเลย หรือเท่ากับน้ำ 100
แต่สำหรับการควรซื้อเพชรที่มีระดับสีตั้งแต่ D, E และ F เพราะเป็นระดับสีที่หายากและอยู่ในกลุ่มน่าสะสม แต่มีผู้เชี่ยวชาญบางคนเห็นว่า ถ้าจะลงไปถึงระดับสี G และ H ก็ยังพอได้
ความสะอาด ( Clarity )
สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งอเมริกา (GIA) แบ่งระดับความสะอาดของเพชรออกเป็น 11 ระดับ จากการมองด้วยกล้องขยาย 10 เท่า เริ่มจากไม่มีตำหนิเลย (FL) ไปจนถึงมีตำหนิขนาดใหญ่และมองเห็นได้ง่าย (I3)
ความสะอาดที่เหมาะสมแก่การลงทุนคือ FL, IF, WS1, WS2, VS1 และ VS2
ระดับสีที่กำลังมาแรงในตอนนี้คือ VS1 และ VS2 เพราะราคาไม่สูงนัก ทำให้มีสภาพคล่องสูง และราคาเคลื่อนไหวมากกว่า นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติยังยอมรับเพชรที่มีตำหนิได้ เพราะถือว่า เพชรเป็นของธรรมชาติที่เป็นธรรมดาที่จะต้องมีตำหนิอยู่บ้าง
น้ำหนัก ( Carat Weight )
หน่วยการวัดน้ำหนักของเพชรเรียกเป็น กะรัต โดย 1 กะรัต เท่ากับ 100 สตางค์ และเพชรที่เหมาะแก่การลงทุนจะต้องเป็นเพชรที่มีน้ำหนัก 1 กะรัตขึ้นไป เพชรที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดจะเป็นเพชรที่มีขนาด 3-5 กะรัต
การเจียระไน ( Cut )
การเจียระไนที่ดี จะทำให้เพชรเม็ดนั้น "เล่นแสง" ส่องประกายเจิดจ้าได้มากขึ้น ชึ่งการเจียระไนสามารถทำเป็นรูปทรงต่างๆได้หลากหลาย เช่น รูปสี่เหลี่ยม รูปหัวใจ รูปหยดน้ำ แต่รูปทรงที่ส่งให้เพชรส่องประกายได้งดงามที่สุด ต้องยกให้ รูปกลมเหลี่ยมเกสร และยังเป็นรูปทรงที่เหมาะแก่การลงทุนด้วย
รูปทรงกลมได้รับความนิยมมากที่สุด ทำให้มีสภาพคล่องสูง ซื้อง่ายขายคล่อง ขณะที่รูปทรงแปลกๆอาจจะไดรับความนิยมเป็นบางช่วงเวลา จึงทำให้ราคาค่อนข้างผันผวน
ใบรับประกัน ( Certificate )
เพชรที่มีไว้เพื่อการลงทุนจะต้องมีใบรับประกัน โดยในใบรับประกันจะบอกรายละเอียดของเพชรเม็ดนั้น ทั้งยังมีการยิงเลเซอร์เลขรหัสใบรับรองไวัที่ขอบเพชร ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการสับเปลี่ยนตัวเพชรกับใบรับรอง และต้องเป็นสถาบันที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับทั่วโลก เช่น GIA และ HRD
ถ้าซื้อเพชรที่ไม่มีใบรับประกัน ก็ไม่ใช่การลงทุน เพราะนอกจากมูลค่าของมันจะไม่เพิ่มขึ้นแล้ว ราคาขายอาจจะลดลงมากกว่าครึ่งด้วย
สายสัมพันธ์ ( Connection )
นอกจาก 5Cs ที่เป็นส่วนประกอบของเพชรแล้ว ก้าคิดจะเป็นนักลงทุนที่ดีต้องมี C ที่ 6 คือ "สายสัมพันธ์ที่ดี" กับทั้งร้านค้าและคนรอบตัว เพราะสายสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้การซื้อขายเพชร ทำได้คล่องมือขึ้น
เพชรที่ดีหาซื้อได้ไม่ยาก แต่นายหน้าค้าเพชรที่ดีที่ซื่อสัตย์ด่อลูกค้าหายาก เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะเป็นนักลงทุน จะต้องหานายหน้าที่ดีให้เจอก่อน
สี ( Clolor )
ตามมาตรฐานของสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งอเมริกา (GIA) จะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ เริ่มจาก D ถึง Z โดยที่สีระดับ D ถือเป็นเพชรสีขาว หรือเพชรไร้สีที่ไม่มีสีอื่นมาเจือปนเลย หรือเท่ากับน้ำ 100
แต่สำหรับการควรซื้อเพชรที่มีระดับสีตั้งแต่ D, E และ F เพราะเป็นระดับสีที่หายากและอยู่ในกลุ่มน่าสะสม แต่มีผู้เชี่ยวชาญบางคนเห็นว่า ถ้าจะลงไปถึงระดับสี G และ H ก็ยังพอได้
ความสะอาด ( Clarity )
สถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งอเมริกา (GIA) แบ่งระดับความสะอาดของเพชรออกเป็น 11 ระดับ จากการมองด้วยกล้องขยาย 10 เท่า เริ่มจากไม่มีตำหนิเลย (FL) ไปจนถึงมีตำหนิขนาดใหญ่และมองเห็นได้ง่าย (I3)
ความสะอาดที่เหมาะสมแก่การลงทุนคือ FL, IF, WS1, WS2, VS1 และ VS2
ระดับสีที่กำลังมาแรงในตอนนี้คือ VS1 และ VS2 เพราะราคาไม่สูงนัก ทำให้มีสภาพคล่องสูง และราคาเคลื่อนไหวมากกว่า นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติยังยอมรับเพชรที่มีตำหนิได้ เพราะถือว่า เพชรเป็นของธรรมชาติที่เป็นธรรมดาที่จะต้องมีตำหนิอยู่บ้าง
น้ำหนัก ( Carat Weight )
หน่วยการวัดน้ำหนักของเพชรเรียกเป็น กะรัต โดย 1 กะรัต เท่ากับ 100 สตางค์ และเพชรที่เหมาะแก่การลงทุนจะต้องเป็นเพชรที่มีน้ำหนัก 1 กะรัตขึ้นไป เพชรที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดจะเป็นเพชรที่มีขนาด 3-5 กะรัต
การเจียระไน ( Cut )
การเจียระไนที่ดี จะทำให้เพชรเม็ดนั้น "เล่นแสง" ส่องประกายเจิดจ้าได้มากขึ้น ชึ่งการเจียระไนสามารถทำเป็นรูปทรงต่างๆได้หลากหลาย เช่น รูปสี่เหลี่ยม รูปหัวใจ รูปหยดน้ำ แต่รูปทรงที่ส่งให้เพชรส่องประกายได้งดงามที่สุด ต้องยกให้ รูปกลมเหลี่ยมเกสร และยังเป็นรูปทรงที่เหมาะแก่การลงทุนด้วย
รูปทรงกลมได้รับความนิยมมากที่สุด ทำให้มีสภาพคล่องสูง ซื้อง่ายขายคล่อง ขณะที่รูปทรงแปลกๆอาจจะไดรับความนิยมเป็นบางช่วงเวลา จึงทำให้ราคาค่อนข้างผันผวน
ใบรับประกัน ( Certificate )
เพชรที่มีไว้เพื่อการลงทุนจะต้องมีใบรับประกัน โดยในใบรับประกันจะบอกรายละเอียดของเพชรเม็ดนั้น ทั้งยังมีการยิงเลเซอร์เลขรหัสใบรับรองไวัที่ขอบเพชร ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการสับเปลี่ยนตัวเพชรกับใบรับรอง และต้องเป็นสถาบันที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับทั่วโลก เช่น GIA และ HRD
ถ้าซื้อเพชรที่ไม่มีใบรับประกัน ก็ไม่ใช่การลงทุน เพราะนอกจากมูลค่าของมันจะไม่เพิ่มขึ้นแล้ว ราคาขายอาจจะลดลงมากกว่าครึ่งด้วย
สายสัมพันธ์ ( Connection )
นอกจาก 5Cs ที่เป็นส่วนประกอบของเพชรแล้ว ก้าคิดจะเป็นนักลงทุนที่ดีต้องมี C ที่ 6 คือ "สายสัมพันธ์ที่ดี" กับทั้งร้านค้าและคนรอบตัว เพราะสายสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยให้การซื้อขายเพชร ทำได้คล่องมือขึ้น
เพชรที่ดีหาซื้อได้ไม่ยาก แต่นายหน้าค้าเพชรที่ดีที่ซื่อสัตย์ด่อลูกค้าหายาก เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะเป็นนักลงทุน จะต้องหานายหน้าที่ดีให้เจอก่อน
Comments
Post a Comment